简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทความนี้สรุปมุมมองของผู้เชี่ยวชาญต่อผลกระทบของนโยบายภาษีทรัมป์ที่มีต่อ Bitcoin โดยชี้ว่าแม้ระยะสั้นจะผันผวน แต่ระยะยาวยังมีศักยภาพเติบโต.
ในช่วงต้นของการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นความหวังของชาวคริปโต ด้วยการออกมาสนับสนุน Bitcoin อย่างเปิดเผย ทั้งยังเคยเสนอแนวคิดการผลักดัน Bitcoin ให้เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ยุทธศาสตร์ระดับชาติ แต่แล้ว...ท่าทีของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
เมื่อทรัมป์กลับมาพร้อมนโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าของสหรัฐฯ ตลาดคริปโตกลับกลายเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ได้รับผลกระทบแบบไม่ทันตั้งตัว ราคาของ Bitcoin ผันผวนหนัก ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มสั่นคลอน จนเกิดคำถามสำคัญว่า Bitcoin จะรอด หรือร่วง?
รายการ “ทันโลกกับ Trader KP” เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ได้เชิญกูรูคริปโตชื่อดังของไทย ได้แก่ “ท๊อป จิรายุส,” “อาจารย์ตั๊ม พิริยะ” และ “ลุงโฉลก สัมพันธารักษ์” มาร่วมวิเคราะห์แบบจัดเต็ม ทั้งในแง่เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี และเทคนิคกราฟ เพื่อไขคำตอบเรื่องอนาคตของ Bitcoin ท่ามกลางมรสุมภาษีของทรัมป์
สงครามการค้า จะหยุด Bull Run ได้ไหม?
คุณท๊อป จิรายุส ผู้ก่อตั้ง Bitkub Group ได้เปรียบเทียบ Bitcoin กับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกล่าวว่า:
“ทองคำคือ iPhone 1 ส่วน Bitcoin คือ iPhone 15 ทั้งคู่มีคุณสมบัติเหมือนกัน แต่ Bitcoin สะดวกกว่า เคลื่อนย้ายง่ายกว่า และตอบโจทย์โลกยุคใหม่กว่า”
เขามองว่าแม้ราคาของ Bitcoin ยังผันผวนจากนโยบายภาษีของทรัมป์ แต่เมื่อเทียบผลตอบแทนย้อนหลัง 2 ปี Bitcoin เติบโตถึง 400% และใน 1 ปีที่ผ่านมา ยังคงเอาชนะ asset class อื่น ๆ ได้แบบขาดลอย
“ปีนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของ Bull run และเมื่อทรัมป์เพิ่งยกเลิกภาษีคริปโตของไบเดน นี่คือพัฒนาการที่สำคัญมาก”
คุณท๊อปทิ้งท้ายว่า ในระยะสั้นการเดาราคาคือเรื่องยาก แต่ระยะยาว Bitcoin คือโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินโลก
ระยะสั้นสั่นคลอน แต่ระยะยาวยังไม่แพ้
อาจารย์ตั๊ม พิริยะ Bitcoiner รุ่นใหญ่ของไทย มองว่านโยบายของทรัมป์ส่งผลเชิงลบในระยะสั้น เพราะกระทบจิตวิทยานักเก็งกำไรจำนวนมาก
“คนที่ถือสั้นอาจจะเทขาย เพราะมองว่า Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์เสี่ยง”
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ถึงแม้ตลาดหุ้นจะร่วงแรง แต่ Bitcoin ยังสามารถรักษาระดับราคาได้ดีกว่าที่คาดไว้
“ผมตกใจเหมือนกันที่ Bitcoin ยังยืนอยู่ได้ นี่คือสัญญาณว่าโครงสร้างของนักลงทุนเริ่มเปลี่ยน จากสายเก็งกำไร มาเป็นสายถือยาวมากขึ้นเรื่อย ๆ”
เขามองว่า แม้สงครามภาษีจะทำให้ตลาดผันผวน แต่ก็เป็นเพียงคลื่นลูกเล็กของเทรนด์ใหญ่ในระยะยาว
กราฟเทคนิคของลุงโฉลก: โอกาสซื้อซ่อนอยู่ในวิกฤต
ลุงโฉลก สัมพันธารักษ์ นักวิเคราะห์เทคนิคระดับตำนาน ได้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ Bitcoin ผ่านกราฟ Linear Regression และพบว่า:
“ตอนนี้กราฟ Bitcoin หลุดเส้น Regression ลงมาเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นสัญญาณซื้อที่ดี”
ลุงโฉลกเชื่อว่าราคาที่ปรับตัวลงในช่วงนี้ อาจเป็นช่วงสุดท้ายของขาลง (wave 2) และเตรียมเข้าสู่ขาขึ้นระยะยาว (wave 3)
“ไม่มีใครรู้ว่าราคาจะจบขาลงหรือยัง แต่คนที่ถือ Bitcoin เพื่อออมระยะยาวก็ไม่เดือดร้อนอะไร นี่แหละโอกาสในการเข้าซื้อเพิ่ม”
บทสรุปจากมุมมองนักเทรด
แม้ Bitcoin จะเผชิญกับพายุสงครามภาษีจากทรัมป์ และความผันผวนที่น่าหวาดหวั่นในสายตานักลงทุนบางกลุ่ม แต่สำหรับกูรูคริปโตทั้งสามคน กลับมองว่าวิกฤตนี้คือช่วงเวลาทดสอบความเข้าใจของนักลงทุนที่แท้จริง
ระยะสั้นอาจสั่นคลอน แต่ระยะยาวยังมีความหวัง เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่สัญญาณแห่งจุดจบ หากแต่เป็นบททดสอบสำคัญที่ Bitcoin จะต้องผ่าน เพื่อพิสูจน์บทบาทของมันในโลกการเงินยุคใหม่
“ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่ความมั่นใจในสิ่งที่เราเข้าใจจริง คือสิ่งที่จะพาเราไปถึงอนาคตได้”
ขอบคุณข้อมูลจาก siamblockchain
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Megaland แพลตฟอร์ม NFT สัญชาติไทยประกาศยุติบริการ 1 ส.ค. 2568 หลังกระแส NFT ซบเซาและขาดการใช้งานจริง เคยเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันวงการ NFT ไทย ผู้ใช้งานควรเร่งตรวจสอบบัญชีและติดตามประกาศถอนทรัพย์สิน
ปลายเดือนมิถุนายน 2568 นักลงทุนคริปโตถูกปล้นเงินสดกว่า 3.4 ล้านบาทกลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ขณะทำธุรกรรมซื้อขายเหรียญดิจิทัลกับกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนและมีดในการก่อเหตุ ผู้เสียหายได้นัดหมายซื้อขายล่วงหน้า ก่อนถูกบุกปล้นและหลบหนีโดยรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวน พบมีการวางแผนล่วงหน้า เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงสูงของการทำธุรกรรมนอกระบบและถือเงินสดจำนวนมากในตลาดคริปโต
แม้ Squid Game Season 3 จะเป็นเพียงซีรีส์ แต่เรื่องของ “มยองกี” ยูทูบเบอร์สายคริปโตผู้ล้มละลายจากความมั่นใจเกินตัว กลับสะท้อนความจริงเจ็บลึกของนักลงทุนยุคใหม่ที่หวังรวยเร็วโดยไม่มีแผนสำรอง การล้มของเขาคือบทเรียนสำคัญว่า “ความรู้ไม่เท่ากับภูมิคุ้มกัน” และ “ความสำเร็จครั้งก่อน ไม่ใช่เกราะป้องกันความผิดพลาดครั้งหน้า”... อย่ารอให้พลาดแล้วค่อยเข้าใจว่า เกมการลงทุนก็โหดไม่ต่างจากเกมเอาชีวิตรอด
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างเกณฑ์ใหม่ ที่อนุญาตให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลออกโทเค็นยูทิลิตี้ของตนเองได้ ภายใต้การกำกับเข้มงวด เช่น การเปิดเผยบุคคลที่เกี่ยวข้อง และติดสัญลักษณ์เตือนในระบบรายงาน จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมควบคู่กับการคุ้มครองผู้ลงทุน แพลตฟอร์มที่มีโทเค็นอยู่แล้วต้องเปิดเผยข้อมูลภายใน 90 วัน ผู้สนใจสามารถแสดงความเห็นได้ถึง 21 กรกฎาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ ก.ล.ต.
IC Markets Global
Saxo
ATFX
KVB
Exness
TMGM
IC Markets Global
Saxo
ATFX
KVB
Exness
TMGM
IC Markets Global
Saxo
ATFX
KVB
Exness
TMGM
IC Markets Global
Saxo
ATFX
KVB
Exness
TMGM