简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:Michael Bamber เทรดเดอร์สายกองทุน แชร์ 5 หลักการเร่งเส้นทางสู่ความสำเร็จในตลาด Forex โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกนานปี เน้นวินัย ระบบความเสี่ยงที่ชัดเจน คุมขาดทุนรายวัน มีกลยุทธ์สำรอง และควบคุม Drawdown จุดสำคัญคือ “อยู่รอด” ไม่ใช่แค่ “ได้เยอะ” – เพราะตลาดมีทุกวัน แต่พอร์ตพังได้แค่ครั้งเดียว.
แอดเหยี่ยวมีของเด็ดมาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ สายเทรดที่กำลังมองหา “ทางลัด” หรือวิธีลัดสู่ความสำเร็จในตลาด Forex ที่ไม่ต้องเสียเวลาหลายปีไปกับการลองผิดลองถูก
บทเรียนนี้มาจาก Michael Bamber เทรดเดอร์สายกองทุนที่มีประสบการณ์กับบัญชีของ MFF (My Forex Funds) และสิ่งที่เขาย้ำชัดคือ...
“การเทรดกองทุนไม่ใช่ปลายทางของการเป็นเทรดเดอร์ แต่เป็นเครื่องเร่งที่ทำให้คุณก้าวกระโดดได้ไวขึ้น”
เขาแชร์หลักการ 5 ข้อที่ช่วยลดระยะเวลาการเรียนรู้จาก 5 ปีเหลือแค่ไม่กี่เดือน และที่สำคัญ... ไม่ต้องเสี่ยงเอาพอร์ตตัวเองไปเป็นสนามทดลอง
1. วางระบบความเสี่ยงให้แน่น
การเทรดที่ดีเริ่มจากระบบที่มั่นคง Michael ย้ำว่า การมี กฎที่ชัดเจน คือเกราะป้องกันพอร์ตและจิตใจของคุณ
ให้โฟกัส 3 องค์ประกอบหลักของระบบความเสี่ยง:
Entry Model: มีรูปแบบเข้าเทรดที่ชัดเจน
Session: เลือกเวลาเทรดที่เหมาะกับคู่เงินและสไตล์ของคุณ
Pairs: จำกัดจำนวนคู่เทรด ไม่เกิน 3 คู่ เพื่อโฟกัสได้เต็มที่
2. คำนวณความเสี่ยงก่อนลงมือ
Michael แนะนำให้เสี่ยงสูงสุด 1.00% ต่อการเทรด 1 ครั้ง
ใช้สูตร:ขนาดการเทรด = เงินทุนที่ยอมเสี่ยง / การเคลื่อนไหวของราคาในจุด / ต้นทุนต่อ 1 จุด
เมื่อคุณรู้ว่า “พร้อมจะเสียได้เท่าไหร่” คุณก็จะไม่หวั่นไหวแม้ราคาจะไม่ไปตามทาง
3. จำกัดการขาดทุนรายวัน
ขาดทุน 2 ไม้ติดในวันเดียว = พักทันที
นี่คือหนึ่งในกฎที่ Michael ย้ำว่า “โคตรสำคัญแต่คนส่วนใหญ่ไม่ทำ” เพราะถ้ายังเทรดต่อหลังขาดทุน 2 ไม้ มันจะไม่ใช่เทรดจากแผน แต่เป็นเทรดจากอารมณ์ ซึ่งมักจบไม่สวย
4. มีกลยุทธ์สำรอง ไม่ยึดติดแค่แผนเดียว
ตลาดไม่เคยเหมือนเดิมตลอดเวลา ดังนั้นเราต้องยืดหยุ่น
ถ้ากลยุทธ์หนึ่งขาดทุน 2-3 ครั้งติดกัน อย่าฝืน
หยุด – วิเคราะห์ – ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์
การเทรดไม่ใช่เรื่องของ “ความแม่น” แต่คือ “การปรับตัว”
5. ควบคุม Drawdown ให้ได้อยู่หมัด
การรักษาระดับ Drawdown ให้น้อยที่สุดคือการปกป้องชีวิตพอร์ต
Michael เคยเสี่ยง 1.00% ต่อเทรด แล้วค่อย ๆ ลดลงเหลือ 0.50% เพื่อรักษาทุนระยะยาว
ยิ่งพอร์ตใหญ่ ยิ่งต้องเน้นการ “อยู่รอด” ไม่ใช่แค่ “ได้เยอะ”
สรุปส่งท้าย
ในโลกการเทรดที่เต็มไปด้วยข้อมูล เทคนิค และคอร์สแพง ๆ สิ่งที่คุณต้องมีอาจไม่ใช่ระบบที่ล้ำที่สุด แต่คือ “วินัย” และ “ความเข้าใจ” ที่แน่นพอจะไม่เทรดแบบเดาสุ่ม Michael Bamber ไม่ได้รวยเร็ว เพราะเสี่ยงเยอะ แต่เขาประหยัดเวลา เพราะเรียนรู้จาก “กฎง่าย ๆ” ที่คนมองข้าม อย่ารอให้พอร์ตพังแล้วค่อยหาแผน อย่าปล่อยให้ความฝันการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ต้องแลกมาด้วยเวลา 5 ปีโดยไม่จำเป็น จำไว้ว่า... ตลาดมีให้เล่นทุกวัน แต่พอร์ตมีให้พังแค่ครั้งเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก Michael Bamber
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์ FXOpen น่าใช้ไหม!
บทความนี้เตือนนักเทรดมือใหม่เกี่ยวกับ "บัญชีเดโม่" ที่แม้จะช่วยฝึกทักษะการเทรดโดยไม่เสี่ยงเงินจริง แต่กลับไม่สามารถจำลองอารมณ์และความกดดันในสนามจริงได้ การขาดความเข้าใจในเครื่องมือ ความแตกต่างทางอารมณ์เมื่อใช้เงินจริง และการไม่เห็นค่าของเงิน จึงเป็นกับดักที่อาจทำให้พอร์ตพังได้ง่าย สรุปคือ เดโม่สอนเทคนิค แต่สนามจริงเท่านั้นที่สอน “ใจ” ให้แกร่งพอจะอยู่รอดในตลาด.
บทความนี้เล่าเรื่องของ Richard Dennis เทรดเดอร์ในตำนานผู้สร้างกำไร 80 ล้านดอลลาร์จากตลาดฟิวเจอร์สด้วยระบบเทรดที่มีวินัยและไม่ใช้อารมณ์ เขาเชื่อว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์แต่เกิดจากการฝึกฝน Dennis ยังพิสูจน์ผ่านโครงการ Turtle Traders ว่าใคร ๆ ก็เป็นเทรดเดอร์ได้หากมีระบบและวินัย จุดสำคัญคือ "เจ็บได้ แต่อย่าเจ๊ง" และยึดมั่นในแผนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด
เฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ย แม้ GDP ไตรมาสแรกจะหดตัว 0.3% และเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย (2.4%) แต่เฟดยังเลือก “รอดู” พร้อมย้ำจุดยืนอิสระในการดำเนินนโยบาย ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวก หลังพาวเวลล์ให้ความมั่นใจเรื่องความระมัดระวังของเฟด นักวิเคราะห์คาดอาจมีการลดดอกเบี้ยช่วงปลายปี หากเศรษฐกิจชะลอตัวชัดเจน อยากให้ย่อยข้อมูลนี้เป็นโพสต์อินโฟกราฟิก หรือเขียนต่อเป็นบทวิเคราะห์แนว macroeconomic overview?
Exness
EC Markets
STARTRADER
GO MARKETS
FOREX.com
Neex
Exness
EC Markets
STARTRADER
GO MARKETS
FOREX.com
Neex
Exness
EC Markets
STARTRADER
GO MARKETS
FOREX.com
Neex
Exness
EC Markets
STARTRADER
GO MARKETS
FOREX.com
Neex