简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ตลาดหุ้นไทยวันที่ 8 เม.ย. ร่วงแรงจากแรงกดดันสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน ดัชนีปิดลบ 51.78 จุด นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,400 ล้านบาท รัฐบาลไทยเร่งเจรจาสหรัฐฯ พร้อมออกมาตรการพยุงตลาด ขณะที่สหรัฐฯ เองก็เจอกระแสต้านนโยบายการค้าในประเทศ.
แอดเหยี่ยวสรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา บรรยากาศในตลาดสะท้อนแรงกระเพื่อมจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอย่างชัดเจน โดยเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 1,125.21 จุด แต่ถูกแรงขายกดดันต่อเนื่อง จนปิดในแดนลบที่ 1,073.43 จุด ลดลงถึง 51.78 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 5,230.98 ล้านบาท ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,080.27 จุด และต่ำสุดที่ 1,073.43 จุด
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ จาก บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า การปรับตัวลงแรงของตลาดไทย เป็นผลจากความเสี่ยงหลักเรื่องภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขึ้นภาษีที่มีผลต่อไทยในอัตราสูงถึง 36% ส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกโดยตรง และกระเทือนถึงจีดีพี รวมไปถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
แรงขายที่เกิดขึ้นกระจายตัวในหุ้นหลักแทบทุกกลุ่ม สอดคล้องกับการที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนักถึง 6,400 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าแรงเทขายไม่ใช่แค่ในไทย แต่ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหลังจากจีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ 34% ทำให้ทรัมป์ออกมาขู่ว่าจะยกระดับขึ้นภาษีจีนอีกในวันที่ 9 เม.ย. และแม้จะมีข่าวลือเรื่องการเลื่อนภาษีออกไป 90 วัน แต่สุดท้ายทำเนียบขาวก็ปฏิเสธ ทำให้ตลาดสหรัฐผันผวนหนักในคืนก่อนหน้า
ในประเทศเอง นักลงทุนต้องจับตาการประชุมของภาครัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหาทางผ่อนคลายความตึงเครียดด้านภาษีนำเข้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นวาระเร่งด่วน ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกมาตรการชั่วคราวเพื่อพยุงความผันผวน ได้แก่ การลดกรอบราคาซิลลิ่ง–ฟลอร์จาก ±30% เหลือ ±15% และสั่งห้ามทำ Short Sell ชั่วคราว
แอดเหยี่ยวยังได้ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้แถลงข่าวด่วน สั่งเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไปก่อน เพื่อให้ความสำคัญกับประเด็นเศรษฐกิจเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ซึ่งได้เตรียมส่ง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง บินด่วนไปเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกในเชิงนโยบายร่วมกัน
งานนี้ต้องบอกว่า ไม่ใช่แค่ตลาดไทยที่สั่นคลอน แต่ความตึงเครียดระดับโลกครั้งนี้ ก็ทำให้แม้แต่ในสหรัฐเอง ก็มีการชุมนุมประท้วงเชิงสัญลักษณ์ชื่อว่า “Hands Off!” โดยคนอเมริกันหลากหลายกลุ่มอาชีพ ลุกขึ้นมาต่อต้านนโยบายของรัฐบาลตนเอง ที่ถูกมองว่าเอาประเทศอื่นมาเป็นเหยื่อของแนวนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน
แอดเหยี่ยวจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และอัปเดตให้ทุกคนได้รู้ทันสถานการณ์ทุกฝีก้าว อย่าลืมติดตามกันต่อครับ!
ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์ FXOpen น่าใช้ไหม!
บทความนี้เตือนนักเทรดมือใหม่เกี่ยวกับ "บัญชีเดโม่" ที่แม้จะช่วยฝึกทักษะการเทรดโดยไม่เสี่ยงเงินจริง แต่กลับไม่สามารถจำลองอารมณ์และความกดดันในสนามจริงได้ การขาดความเข้าใจในเครื่องมือ ความแตกต่างทางอารมณ์เมื่อใช้เงินจริง และการไม่เห็นค่าของเงิน จึงเป็นกับดักที่อาจทำให้พอร์ตพังได้ง่าย สรุปคือ เดโม่สอนเทคนิค แต่สนามจริงเท่านั้นที่สอน “ใจ” ให้แกร่งพอจะอยู่รอดในตลาด.
บทความนี้เล่าเรื่องของ Richard Dennis เทรดเดอร์ในตำนานผู้สร้างกำไร 80 ล้านดอลลาร์จากตลาดฟิวเจอร์สด้วยระบบเทรดที่มีวินัยและไม่ใช้อารมณ์ เขาเชื่อว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์แต่เกิดจากการฝึกฝน Dennis ยังพิสูจน์ผ่านโครงการ Turtle Traders ว่าใคร ๆ ก็เป็นเทรดเดอร์ได้หากมีระบบและวินัย จุดสำคัญคือ "เจ็บได้ แต่อย่าเจ๊ง" และยึดมั่นในแผนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด
เฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ย แม้ GDP ไตรมาสแรกจะหดตัว 0.3% และเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย (2.4%) แต่เฟดยังเลือก “รอดู” พร้อมย้ำจุดยืนอิสระในการดำเนินนโยบาย ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวก หลังพาวเวลล์ให้ความมั่นใจเรื่องความระมัดระวังของเฟด นักวิเคราะห์คาดอาจมีการลดดอกเบี้ยช่วงปลายปี หากเศรษฐกิจชะลอตัวชัดเจน อยากให้ย่อยข้อมูลนี้เป็นโพสต์อินโฟกราฟิก หรือเขียนต่อเป็นบทวิเคราะห์แนว macroeconomic overview?
FBS
Pepperstone
Trive
IC Markets Global
Neex
GTCFX
FBS
Pepperstone
Trive
IC Markets Global
Neex
GTCFX
FBS
Pepperstone
Trive
IC Markets Global
Neex
GTCFX
FBS
Pepperstone
Trive
IC Markets Global
Neex
GTCFX