简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กำไรจากการขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณไม่ต้องเสียภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) อย่างไรก็ตาม การออมทองไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้นค่ากำเหน็จทองรูปพรรณที่มีใบกำกับภาษี e-Tax Invoice บทความยังเปรียบเทียบภาระภาษีจากการลงทุนประเภทอื่น เช่น หุ้น พันธบัตร และคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อช่วยให้นักลงทุนวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การออมทองเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง แม้ราคาจะผันผวนตามเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงควรพิจารณาข้อมูลและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ
การลงทุนในทองคำเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจผันผวน เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตาม หลายคนยังมีข้อสงสัยว่า ออมทองต้องเสียภาษีหรือไม่ และมีภาระภาษีอะไรที่ต้องคำนึงถึง บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้องกับการออมทอง พร้อมข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนควรรู้
ออมทองต้องเสียภาษีหรือไม่?
ทองคำแท่งและทองรูปพรรณที่บุคคลธรรมดาถือครอง ถือเป็น สังหาริมทรัพย์ส่วนบุคคล ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) ซึ่งได้รับ การยกเว้นภาษี หมายความว่า หากมีกำไรจากการขายทอง ก็ไม่ต้องนำไปคำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษี ดังนั้น คำตอบของคำถามว่า ออมทองต้องเสียภาษีหรือไม่ คือ ไม่ต้องเสียภาษี
ออมทองสามารถลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?
แม้ออมทองจะไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ โดยต้องแยกพิจารณาดังนี้
ทองคำแท่ง – ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
ทองรูปพรรณ – สามารถนำค่ากำเหน็จมาลดหย่อนได้ แต่ต้องมี ใบกำกับภาษีแบบ e-Tax Invoice ที่ออกโดยร้านทอง
ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดหย่อนภาษี อาจต้องพิจารณาแนวทางอื่น เช่น การลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีแทน
ภาษีจากการลงทุนประเภทอื่น เทียบกับออมทอง
แม้การออมทองจะไม่มีภาระภาษี แต่สำหรับการลงทุนประเภทอื่น ๆ อาจมีข้อกำหนดทางภาษีที่แตกต่างกัน ดังนี้
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภาษีจากการขายหุ้น
ภาษีจากการขายกองทุน RMF และ SSF
ภาษีรายได้จากต่างประเทศ
ข้อควรรู้ก่อนลงทุนออมทอง
1. ทองคำแท่ง vs ทองรูปพรรณ
2. วิธีออมทอง
3. ความผันผวนของราคาทองคำ
สรุป
การออมทองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และเลือกวิธีการออมทองที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของตนเอง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เสื่อมสลายและสามารถช่วยรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจหรือการเงินที่ผันผวน มันมีคุณสมบัติเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" และให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว การลงทุนในทองคำสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการซื้อทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำ หรือผ่าน Gold ETFs และ Gold Futures นักลงทุนควรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน.
ชีวิตหรูหราของเทรดเดอร์ในโซเชียลอาจไม่ใช่ผลจากการเทรด Forex จริงๆ หลายคนรวยจากการขายคอร์ส สร้างภาพ หรือรับค่านายหน้า ไม่ใช่กำไรจากตลาด การเติบโตของเงินทุนใน Forex ต้องใช้เวลา ความรู้ และวินัยสูง — ไม่มีทางลัด อย่าหลงเชื่อภาพลวงตา เพราะการเทรดไม่ใช่โชค แต่คือความเข้าใจและอดทนระยะยาว “การเทรดไม่ทำให้รวยเร็ว แต่ความโลภจะทำให้คุณจนไว”
จากภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street สู่บทเรียนชีวิตจริงของโลกการเงิน — เรื่องราวของ Jordan Belfort ไม่ได้สะท้อนแค่ศิลปะการขาย แต่ยังเปิดโปงด้านมืดของ “ความอยาก” ที่ขับเคลื่อนโลกการเงิน การใช้วาทะปลุกพลังในทีมขาย, การเปลี่ยน “ความโลภ” ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างอาณาจักร และบทสรุปของชายผู้เปลี่ยนจากนักล่าสู่เหยื่อของตัวเอง บทความนี้ถอดรหัสแรงขับเบื้องหลังตลาดทุน ที่ยังคงเดือดไม่เปลี่ยนแปลง แม้ยุคสมัยจะหมุนไป
บทความนี้พาผู้อ่านไปรู้จักกับ “ดาร์กเว็บ” พื้นที่ลับของอินเทอร์เน็ตที่มักใช้ในการซื้อขายข้อมูลผิดกฎหมาย เช่น บัญชีการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต และซอฟต์แวร์แฮกระบบ ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความปลอดภัยของนักเทรด โดยเฉพาะในยุคที่การลงทุนเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์อย่างแน่นแฟ้น บทความยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเอง 5 ข้อ เช่น ใช้ 2FA และตั้งรหัสผ่านอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดไปยังพื้นที่อันตรายเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า “การรู้เท่าทัน” คือเกราะป้องกันชั้นแรกของนักลงทุนยุคดิจิทัล.
EC Markets
FBS
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Pepperstone
EC Markets
FBS
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Pepperstone
EC Markets
FBS
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Pepperstone
EC Markets
FBS
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Pepperstone