简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เริ่มต้นสงครามการค้า โดยการกำหนดอัตราภาษี 25% ต่อแคนาดากับเม็กซิโกและ 10% ต่อจีน คำสั่งภาษีดังกล่าวได้ลงนามเมื่อวันเสาร์และจะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เริ่มต้นสงครามการค้า โดยการกำหนดอัตราภาษี 25% ต่อแคนาดากับเม็กซิโกและ 10% ต่อจีน คำสั่งภาษีดังกล่าวได้ลงนามเมื่อวันเสาร์และจะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
สำหรับการนำเข้าพลังงานจากแคนาดา ภาษีจะอยู่ที่ 10% ซึ่งต่ำกว่าภาษีอัตราเต็มที่ 25%
“วันนี้ ผมได้กำหนดภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา (10% สำหรับพลังงานจากแคนาดา (OTC:CESDF)) และภาษีเพิ่มอีก 10% สำหรับจีน” ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์บน Truth Social
ทรัมป์ระบุว่า เป้าหมายของมาตรการภาษีนี้คือเพื่อลดการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและผู้อพยพผิดกฎหมายเข้าสู่สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้อาจส่งผลให้ราคาสินค้าหลายประเภทในสหรัฐฯ สูงขึ้นอย่างมาก
“ผมใช้อำนาจตามกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) ในการออกมาตรการนี้ เพราะภัยคุกคามจากผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติดที่เป็นอันตราย รวมถึงเฟนทานิล กำลังคร่าชีวิตพลเมืองของเรา” ทรัมป์กล่าว “เราจำเป็นต้องปกป้องชาวอเมริกัน และเป็นหน้าที่ของผมในฐานะประธานาธิบดีในการสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน ผมได้ให้คำมั่นในช่วงหาเสียงว่าจะหยุดยั้งกระแสของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติดที่ไหลทะลักข้ามพรมแดนของเรา และประชาชนอเมริกันก็ลงคะแนนเสียงสนับสนุนสิ่งนี้อย่างล้นหลาม”
นโยบายใหม่นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการค้าระหว่างอเมริกาเหนือที่แทบจะปลอดภาษีมาตลอดหลายปี และยังเป็นการขยายความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสองรัฐบาลที่ผ่านมา
แม้ว่าทำเนียบขาวจะระบุว่า มาตรการภาษีนี้มีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งการไหลเข้าของเฟนทานิลและผู้อพยพผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ได้ให้เกณฑ์ที่ชัดเจนว่าเงื่อนไขใดที่ต้องบรรลุเพื่อให้มีการยกเลิกภาษีเหล่านี้
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเพียงระบุว่า ภาษีจะถูกยกเลิกเมื่อกระแสของยาเสพติดและผู้อพยพผิดกฎหมายเข้าสู่ประเทศหมดไป
ในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐฯ จะกำหนดภาษีต่อ “ชิปเซมิคอนดักเตอร์” ในอนาคต และจะมีการเพิ่มภาษีสำหรับน้ำมันและก๊าซ “ในเร็ว ๆ นี้” โดยระบุว่าวันที่ 18 กุมภาพันธ์จะเป็นวันสำคัญ
นอกจากนี้ เขายังมีแผนที่จะเพิ่มภาษีต่อเหล็ก อะลูมิเนียม และท้ายที่สุด ทองแดง โดยอ้างอิงจากมาตรการภาษีเหล็กเดิมที่ทรัมป์กล่าวว่า “ช่วยกอบกู้ภาคอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ” ทรัมป์ยังเน้นย้ำว่า มาตรการภาษีเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่มีประเทศใดสามารถทำอะไรเพื่อป้องกันการดำเนินการเหล่านี้ได้
นอกเหนือจากมาตรการที่กำหนดต่อเม็กซิโก แคนาดา และจีนแล้ว ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่ามาตรการภาษีสำคัญ ๆ กำลังจะมุ่งไปยังยุโรป โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ กำลังเตรียม “ดำเนินการบางอย่างที่สำคัญมาก” เกี่ยวกับภาษีในยุโรป
ในการกล่าวปราศรัย ทรัมป์ยังสะท้อนถึงนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในอดีต โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ เคยเป็นประเทศที่พึ่งพาภาษีศุลกากร มากกว่าภาษีเงินได้ และตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบภาษีเงินได้ในปัจจุบันว่า “มันได้ผลดีแค่ไหน”
การประกาศมาตรการภาษีเหล่านี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐเกิดการขายออกเป็นวงกว้างเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนี ดาวโจนส์ ปิดลดลง 0.75% ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.5% และดัชนี NASDAQ คอมโพสิต ลดลง 0.28%
บริษัทรถยนต์รายใหญ่ เช่น General Motors Company (NYSE:GM) Ford Motor Company (NYSE:F) และ Stellantis NV (NYSE:STLA) ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจในเม็กซิโกและแคนาดาจำนวนมาก อาจได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากมาตรการภาษีครั้งนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing Thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์ FXOpen น่าใช้ไหม!
บทความนี้เตือนนักเทรดมือใหม่เกี่ยวกับ "บัญชีเดโม่" ที่แม้จะช่วยฝึกทักษะการเทรดโดยไม่เสี่ยงเงินจริง แต่กลับไม่สามารถจำลองอารมณ์และความกดดันในสนามจริงได้ การขาดความเข้าใจในเครื่องมือ ความแตกต่างทางอารมณ์เมื่อใช้เงินจริง และการไม่เห็นค่าของเงิน จึงเป็นกับดักที่อาจทำให้พอร์ตพังได้ง่าย สรุปคือ เดโม่สอนเทคนิค แต่สนามจริงเท่านั้นที่สอน “ใจ” ให้แกร่งพอจะอยู่รอดในตลาด.
บทความนี้เล่าเรื่องของ Richard Dennis เทรดเดอร์ในตำนานผู้สร้างกำไร 80 ล้านดอลลาร์จากตลาดฟิวเจอร์สด้วยระบบเทรดที่มีวินัยและไม่ใช้อารมณ์ เขาเชื่อว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์แต่เกิดจากการฝึกฝน Dennis ยังพิสูจน์ผ่านโครงการ Turtle Traders ว่าใคร ๆ ก็เป็นเทรดเดอร์ได้หากมีระบบและวินัย จุดสำคัญคือ "เจ็บได้ แต่อย่าเจ๊ง" และยึดมั่นในแผนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด
เฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ย แม้ GDP ไตรมาสแรกจะหดตัว 0.3% และเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย (2.4%) แต่เฟดยังเลือก “รอดู” พร้อมย้ำจุดยืนอิสระในการดำเนินนโยบาย ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวก หลังพาวเวลล์ให้ความมั่นใจเรื่องความระมัดระวังของเฟด นักวิเคราะห์คาดอาจมีการลดดอกเบี้ยช่วงปลายปี หากเศรษฐกิจชะลอตัวชัดเจน อยากให้ย่อยข้อมูลนี้เป็นโพสต์อินโฟกราฟิก หรือเขียนต่อเป็นบทวิเคราะห์แนว macroeconomic overview?
GTCFX
OANDA
IB
STARTRADER
ATFX
IC Markets Global
GTCFX
OANDA
IB
STARTRADER
ATFX
IC Markets Global
GTCFX
OANDA
IB
STARTRADER
ATFX
IC Markets Global
GTCFX
OANDA
IB
STARTRADER
ATFX
IC Markets Global