ทำความรู้จัก TradingView แพลตฟอร์มที่นักเทรดต้องรู้!!

แอดเหยี่ยวขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเทรดและนักลงทุนในปัจจุบัน นั่นคือ “TradingView” ซึ่งโดดเด่นด้วยข้อมูลและเครื่องมือที่ครบครัน อีกทั้งยังมีคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ และการใช้งานที่รวดเร็ว ไม่ซับซ้อน ทำให้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักเทรดมือใหม่ควรทำความรู้จัก แพลตฟอร์มนี้มีความเป็นมาและรายละเอียดอย่างไร แอดเหยี่ยวจะพาไปดูกันครับ!

TradingView เป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเทรดและเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่รวบรวมข้อมูลสินทรัพย์ทุกประเภทจากทั่วโลกไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยให้นักเทรดสามารถมองเห็นภาพรวมของตลาดการเงินได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นดัชนี หุ้น สกุลเงินดิจิทัล สกุลเงินต่างประเทศ ฟิวเจอร์ส หรือพันธบัตร นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้วิเคราะห์เชิงลึกในระดับรายสินทรัพย์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Pine Script ในการสร้างอินดิเคเตอร์ กำหนดการแจ้งเตือนตามเงื่อนไขการเทรด และทดสอบกลยุทธ์การเทรดได้ทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว

TradingView เริ่มต้นในฐานะสตาร์ทอัปฟินเทคและสามารถระดมทุนในรอบ Series B ได้ถึง 37 ล้านดอลลาร์ในปี 2018 ต่อมาในปี 2019 ได้ควบรวมกับ TradeIT ปัจจุบันนอกจากการให้บริการข้อมูลสินทรัพย์แล้ว TradingView ยังเป็นแพลตฟอร์มคอมมูนิตี้แบบ Open Source ที่นักเทรดสามารถเข้ามาแชร์ไอเดียการเทรด การใช้งานเครื่องมือ รวมถึงการเขียนสคริปขั้นสูงได้อีกด้วย โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก

ภาพรวมของ Tradingview

การใช้งาน TradingView รองรับทั้งบนเว็บเบราว์เซอร์ มือถือ และแท็บเล็ต สำหรับครั้งนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีใช้ TradingView โดยเน้นที่การใช้งานบนเว็บเบราว์เซอร์เป็นหลัก เมื่อเปิดหน้าเว็บ TradingView ขึ้นมาจะพบกับอินเทอร์เฟซที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่:

1. สไลด์เมนูตรงมุมบนซ้ายเมนูนี้เป็นทางลัดที่สำคัญ ประกอบด้วย:
1. ผลิตภัณฑ์ (Products): จุดเด่นของ TradingView ที่ให้คุณเลือกใช้งานระหว่าง กราฟราคา (Supercharts), การสแกน (Screeners) และปฏิทินเศรษฐกิจ
2. ชุมชน (Community): พื้นที่ให้นักเทรดสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือหาไอเดียจากนักเทรดทั่วโลก ประกอบด้วย ภาพรวม (Overview), ไลฟ์สด (Live Streams), ไอเดียการเทรด, การให้ความรู้ และสคริปต์
3. ตลาด (Markets): ให้ข้อมูลภาพรวมของตลาด โดยมีข้อมูลหลักๆ เช่น ภาพรวมตลาด (Overview), รายละเอียดตลาดรายประเทศ (Countries) และ Sparks ซึ่งเป็นแหล่งรวมงานวิจัยที่ช่วยในการตัดสินใจเทรด
2. เมนูบาร์ด้านขวาเมนูนี้ประกอบด้วย:
1. Watchlist: แสดงการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ที่ผู้ใช้บันทึกไว้
2. Alerts: การแจ้งเตือนที่ตั้งค่าไว้สำหรับติดตามการเคลื่อนไหวของราคา
3. Hotlist: รายชื่อสินทรัพย์ที่กำลังได้รับความนิยม
4. Calendar: ปฏิทินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ควรติดตามทั่วโลก
5. My Ideas: พื้นที่สำหรับบันทึกไอเดียจากการใช้งานกราฟ
3. ส่วนหน้าเพจหลัก (Body)ประกอบด้วยหัวข้อหลักที่เรียงตามลำดับจากบนลงล่าง ได้แก่ ภาพรวมตลาด (Market Summary), บรรณาธิการคัดมาให้ (Editors Picks), สตรีม (Stream), เรื่องเด่น (Top Stories), หุ้นสหรัฐ, ตลาดหุ้นอื่น ๆ, คริปโต, ค่าเงิน, ฟิวเจอร์ส, พันธบัตร และชุมชน

ขอบคุณข้อมูลจาก Mitrade

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4

คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!