简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทวิเคราะห์ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (1 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางตลาดแรงงานและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.3% แตะระดับ 104.420
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2727 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2855 ดอลลาร์ในวันพุธ (31 ก.ค.) และยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0784 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0827 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 149.56 เยน จากระดับ 150.48 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8729 ฟรังก์ จากระดับ 0.8793 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3886 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3795 ดอลลาร์แคนาดา
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 5.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
การตัดสินใจของ BoE เมื่อวานนี้ ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หลังจากที่ได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ติดต่อกัน 7 ครั้งนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566
นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE ในวันนี้ ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนก.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2566 จากระดับ 48.5 ในเดือนมิ.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.8
ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานในภาคการผลิตที่หดตัวลง
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 249,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางตลาดแรงงาน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. จากระดับ 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนก.ค.
ขอบคุณสำนักข่าวอินโฟเควสท์
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์ FXOpen น่าใช้ไหม!
บทความนี้เตือนนักเทรดมือใหม่เกี่ยวกับ "บัญชีเดโม่" ที่แม้จะช่วยฝึกทักษะการเทรดโดยไม่เสี่ยงเงินจริง แต่กลับไม่สามารถจำลองอารมณ์และความกดดันในสนามจริงได้ การขาดความเข้าใจในเครื่องมือ ความแตกต่างทางอารมณ์เมื่อใช้เงินจริง และการไม่เห็นค่าของเงิน จึงเป็นกับดักที่อาจทำให้พอร์ตพังได้ง่าย สรุปคือ เดโม่สอนเทคนิค แต่สนามจริงเท่านั้นที่สอน “ใจ” ให้แกร่งพอจะอยู่รอดในตลาด.
บทความนี้เล่าเรื่องของ Richard Dennis เทรดเดอร์ในตำนานผู้สร้างกำไร 80 ล้านดอลลาร์จากตลาดฟิวเจอร์สด้วยระบบเทรดที่มีวินัยและไม่ใช้อารมณ์ เขาเชื่อว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์แต่เกิดจากการฝึกฝน Dennis ยังพิสูจน์ผ่านโครงการ Turtle Traders ว่าใคร ๆ ก็เป็นเทรดเดอร์ได้หากมีระบบและวินัย จุดสำคัญคือ "เจ็บได้ แต่อย่าเจ๊ง" และยึดมั่นในแผนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด
เฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ย แม้ GDP ไตรมาสแรกจะหดตัว 0.3% และเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย (2.4%) แต่เฟดยังเลือก “รอดู” พร้อมย้ำจุดยืนอิสระในการดำเนินนโยบาย ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวก หลังพาวเวลล์ให้ความมั่นใจเรื่องความระมัดระวังของเฟด นักวิเคราะห์คาดอาจมีการลดดอกเบี้ยช่วงปลายปี หากเศรษฐกิจชะลอตัวชัดเจน อยากให้ย่อยข้อมูลนี้เป็นโพสต์อินโฟกราฟิก หรือเขียนต่อเป็นบทวิเคราะห์แนว macroeconomic overview?
IC Markets Global
GTCFX
FXTM
Trive
IB
Saxo
IC Markets Global
GTCFX
FXTM
Trive
IB
Saxo
IC Markets Global
GTCFX
FXTM
Trive
IB
Saxo
IC Markets Global
GTCFX
FXTM
Trive
IB
Saxo