简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:CPI คืออะไร ? ส่งผลอย่างไรกับตลาด Forex
ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI m/m) วันพุธที่ 12 ก.ค. 23 เวลา 19.30 น.
• ตัวเลขครั้งก่อน (Previous) : 0.1%
• ตัวเลขคาดการณ์ (Forecast) : 0.3%
• ประกาศตัวเลขจริง (Actual) : 19.30 น.
CPI : Consumer Price Index คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ วัดค่าการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคใช้จ่าย ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายเพื่อวัดอัตราเงินเฟ้อของมูลค่าสินค้าและบริการ โดยการนำตัวเลขในปัจจุบันเปรียบเทียบกับราคาในปีที่กำหนดไว้เป็นปีฐาน เช่น เดือนปัจจุบันเทียบกับเดือนก่อนหน้า ไตรมาสปัจจุบันเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หรือ อาจจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันของปีปัจจุบันเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งตัวเลขที่ออกมาจะสามารถนำมาใช้วัดหลักของอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มการจัดซื้อได้
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่ได้รวมอาหารสดและพลังงาน จะถูกเรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เนื่องจากเป็นหมวดที่มีความเคลื่อนไหวขึ้นลงตามฤดูกาล และอยู่นอกเหนือการควบคุมของนโยบายการเงิน
ดัชนีราคาผู้บริโภค ถูกใช้บ่อยในการการระบุช่วงเวลาของภาวะเงินเฟ้อ หรือภาวะเงินฝืด ช่วยให้เราสามารถมองเห็นได้ว่าค่าเงินที่แท้จริงของประชาชนนั้นเป็นอย่างไร รวมถึงใช้ในการคาดเดาทิศทางราคาสินค้าในตลาด ใช้เป็นเกณฑ์ในการปรับขึ้น-ลง อีกทั้งยังใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในนโยบายการเงินของประเทศ
ดังนั้น ข้อมูลเงินเฟ้อจึงเป็นสิ่งสำคัญในตลาดสกุลเงิน เพราะอัตราเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางซึ่งเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ถ้าหาก Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ การกู้ยืมเงินไม่ว่าจะโดยบุคคลที่จะซื้อสินค้าและบริการหรือโดยธุรกิจเพื่อการขยายกิจการมักจะทำสัญญา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่กว้างขึ้นของประเทศนั่นเอง
ดังนั้น เมื่อ CPI เพิ่มขึ้น ราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการจะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อ CPI ลดลง การใช้จ่ายเฉลี่ยของผู้คนสำหรับสินค้าและบริการจะลดลง CPI เลยเป็นตัววัดว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงเงินเฟ้อหรือเงินฝืด รัฐบาลและผู้จัดการด้านเศรษฐกิจมักจะติดตามข้อมูล CPI อย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนและปรับนโยบายเพื่อให้เศรษฐกิจดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
หากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคออกมาสูง
• ค่าดัชนีราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้น สะท้อนว่าประเทศกำลังเกิดภาวะเงินเฟ้อ
• ถือเป็นตลาดขาขึ้น หรือตลาดกระทิงสำหรับสกุลเงิน USD
• นั่นหมายความว่า ราคาทองคำจะมีการปรับตัวต่ำลง
หากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคออกมาต่ำ
• ค่าดัชนีราคาผู้บริโภคที่ต่ำลง สะท้อนว่าประเทศกำลังเกิดภาวะอุปสงค์ของผู้บริโภคลดลง และภาวะเงินฝืด
• ถือเป็นตลาดขาลง หรือตลาดหมีสำหรับสกุลเงิน USD
• นั่นหมายความว่า ราคาทองคำจะมีการปรับตัวสูงขึ้น
ซึ่งการทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ สามารถช่วยให้เทรดเดอร์มีข้อได้เปรียบในการคาดการณ์แนวโน้มของตลาดและเห็นโอกาสในการทำกำไร ด้วยการติดตามข้อมูลข่าวสารทางเศรษฐกิจ อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้นำเสนอภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศ ดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับสูง และค่าเงินบาทที่ยังแกว่งตัว นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการคาดเดาตลาด และหันมา “วางแผน” โดยเน้นการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ทองคำ รวมถึงสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดอย่าง REITs และหุ้นปันผล นอกจากนี้ยังแนะนำธีมการลงทุนเด่น เช่น หุ้นสุขภาพ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI และพลังงานสะอาด เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงตลาดผันผวน เป้าหมายสำคัญคือการสร้างพอร์ตที่สมดุล ปรับตัวทัน และพร้อมรับความไม่แน่นอนในอนาคต
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการจดบันทึกการเทรด ซึ่งมักถูกมองข้ามโดยเทรดเดอร์จำนวนมาก ทั้งที่เป็นเครื่องมือทรงพลังในการพัฒนาทักษะและความเข้าใจตัวเองในตลาด บันทึกการเทรดช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถย้อนทบทวนกลยุทธ์ การตัดสินใจ และอารมณ์ขณะเทรด เพื่อหาจุดอ่อนและจุดแข็งของตนเองได้อย่างเป็นระบบ โดยไม่จำเป็นต้องเขียนยาว เพียงบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น วันเวลา คู่เงิน เหตุผลการเข้าออกออเดอร์ ผลลัพธ์ อารมณ์ และบทเรียนที่ได้ เทรดเดอร์ที่จดสม่ำเสมอจะมีข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยลดความผิดพลาดซ้ำ และเสริมสร้างแนวทางการเทรดที่มีวินัยและยั่งยืน
รีวิวโบรกเกอร์
FXCM
FXTM
TMGM
Doo Prime
IC Markets Global
Saxo
FXCM
FXTM
TMGM
Doo Prime
IC Markets Global
Saxo
FXCM
FXTM
TMGM
Doo Prime
IC Markets Global
Saxo
FXCM
FXTM
TMGM
Doo Prime
IC Markets Global
Saxo