ทองคำได้แรงหนุน หลังเฟดอาจคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าว

สรุป หลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองคําปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่ออีกเล็กน้อย 2.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่ จําเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าวมากเท่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในระยะนี้ส่งสัญญาณชะลอตัวลง การคาดการณ์ดังกล่าว กดดันดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. จนเป็นปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคําให้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,863.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะที่วันนี้ราคาทองคําช่วงเช้าแกว่งตัวในทิศทาง Sideway ภายในกรอบ 1,845.80-1,856.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแรงหนุนจาก สํานักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 49.6 จากระดับ 47.4 ในเดือนเม.ย. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 47.8 จากระดับ 41.9 ในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ดี ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของจีนยังคงอยู่ใน ภาวะหดตัว ด้าน นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจําเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้นและรวดเร็ว มากขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่มีแนวโน้มชะลอตัวลง พร้อมกับแนะนําให้เฟดเตรียมพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุกๆ ครั้งนับตั้งแต่การประชุม เดือนมิ.ย. นอกจากนี้ อัตราว่างงานเดือนเม.ย.ของญี่ปุ่นลดลงสู่ระดับ 2.5% โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากตลาดแรงงานแสดงให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัว ประเด็นที่กล่าวมานี้อาจเป็นปัจจัยที่กดดันต่อราคาทองคําไว้ได้ สําหรับคืนนี้แนะนําติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. โดย S&PICs, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จาก CB

คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,858-1,869

จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,841-1,836

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,869

ข้อมูลจาก : Investing.com