简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ Bitkub บริษัทซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ยักษ์ให
บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ Bitkub บริษัทซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยได้ถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ ก.ล.ต. เรียกค่าปรับคิดเป็นเงินทั้งหมดมากกว่า 15 ล้านบาท ฐานที่บริษัท Bitkub ได้ดำเนินการคัดเลือกเหรียญ KUBcoin ไม่ได้เป็นตามข้อกำหนดและไม่ได้คำนึงถึงมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (COI)
ปรับบิทคับ ฐานคัดเลือกเหรียญ KUBCoin
คณะกรรมการของบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ Bitkub ที่ถูกเรียกค่าปรับประกอบไปด้วย นายนิธิวัฒน์ มณีสินธุ์, นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ,นายปิยพงษ์ โคตรชนะ,นายพงศกร สุตันตยาวลี และนายอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ คณะกรรมการทั้ง 5 คนได้รับคำสั่งเปรียบเทียบปี 2565 ปรับเป็นเงินจำนวน 2,533,500.00 บาท จากการที่คณะกรรมการทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบในการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะนำมาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และคณะกรรมการทุกคนได้กระทำการหรือละเว้นกระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องการทำ เป็นเหตุให้บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (BO) คัดเลือกเหรียญ Bitkub Coin หรือ KUBcoin เข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกและเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการก.ล.ต.
เช่นเดียวกันทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยได้มีการลงดาบบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ตามคำสั่งเปรียบเทียบที่ 4/2565 ปรับเป็นเงินจำนวน 2,533,500.00 บาท โดยคณะกรรมการได้มีการกำหนดค่าปรับรายวันจนกว่าทางบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัดจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถูกต้องในเรื่องที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย
กดอ่านข่าวต่อที่ CryptoSiam
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ