น้ำมันขึ้น แต่ความกังวลต่อความต้องการเชื้อเพลิงของจีนยังคงอยู่

โดย Gina Lee

Investing.com – ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเช้าวันศุกร์ในตลาดเอเชีย แต่การล็อคดาวน์ที่ยังมีอยู่ทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงในจีนลดลงก่อนวันหยุดยาว อย่างไรก็ตาม ความกังวลว่าอุปทานจะหยุดชะงักเนื่องจากการคว่ำบาตรของตะวันตกส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์จากรัสเซียได้หนุนราคาไว้

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.82% เป็น 108.14 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:48 น. ET (4:48 น. GMT) หลังจากกระโดดขึ้น 2.1% ในช่วงก่อนหน้า สัญญาเดือนในเดือนมิถุนายนจะหมดอายุในช่วงท้ายของวัน สัญญาเดือนกรกฎาคมที่เคลื่อนไหวมากขึ้นลดลง 30 เซนต์ มาอยู่ที่ 106.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.52% เป็น 105.91 ดอลลาร์ หลังจากปรับตัวขึ้น 3.3% ในวันพฤหัสบดี

ทั้งสัญญาเบรนท์และ WTI ถูกกำหนดให้ปิดในสัปดาห์และเดือนที่สูงขึ้น โดย WTI อยู่ในเส้นทางที่จะทำกำไรห้าเดือนติดต่อกัน โอกาสที่เพิ่มขึ้นที่เยอรมนีจะเข้าร่วมกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่น ๆ ในการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียยังทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังคงผันผวนเนื่องจากการล็อกดาวน์เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด19 ในประเทศจีนยังคงดำเนินต่อไป แม้จะมีผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

“ความผันผวนของตลาดน้ำมันคาดว่าจะดำเนินต่อไป โดยอาจมีการล็อกดาวน์ในบริเวณกว้างและยาวนานขึ้นในเดือนพฤษภาคมและหลังจากนั้น ทำให้ความเสี่ยงในระยะสั้นสำหรับอุปสงค์และราคาน้ำมันของจีนร่วงลงไปทางด้านลบ”

ด้านอุปทาน องค์กรของประเทศและพันธมิตรผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) ไม่น่าจะปรับเปลี่ยนข้อตกลงการเพิ่มอัตราผลผลิตในปริมาณมาก กลุ่มพันธมิตรมีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับการเพิ่มผลผลิตเล็กน้อยในเดือนมิถุนายนในการประชุม 5 พ.ค. แหล่งข่าว OPEC+ ทั้ง 6 แหล่งบอกกับรอยเตอร์สในวันพฤหัสบดี

อย่างไรก็ตาม การผลิตน้ำมันของรัสเซียอาจลดลงมากถึง 17% ในปี 2022 ตามเอกสารของกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจเมื่อวันพุธที่รอยเตอร์สเปิดเผย มาตรการคว่ำบาตรทางตะวันตกที่บังคับใช้กับรัสเซียเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. นั้นส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการส่งออกเช่นกัน

มาตรการคว่ำบาตรยังทำให้เรือรัสเซียส่งน้ำมันให้กับลูกค้าได้ยากขึ้น โดยบริษัท Exxon Mobil Corp (NYSE:XOM) ได้ประกาศเหตุสุดวิสัยสำหรับการปฏิบัติงานของโปรเจค Sakhalin-1 และการตัดผลผลิตออก