简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:“กลัวตกรถ” เป็นคำศัพท์หนึ่งที่ได้ยินบ่อยมากในตลาดคริปโต หมายถึงการกลัวว่าจะพลาดในการเข้าซื้อหรือขายเหรียญ วันนี้ WikiBit จะขอนำเสนอวิธีกำจัดอาการกลัวตกรถนี้
“กลัวตกรถ” เป็นคำศัพท์หนึ่งที่ได้ยินบ่อยมากในตลาดคริปโต หมายถึงการกลัวว่าจะพลาด เข้าซื้อหรือขายเหรียญ คริปโตเร็วเกินไป เวลาเห็นราคาตกก็อยากเข้าซื้อเพราะเหมือนรถมาแวะรับ ไม่ได้ซื้อก็เหมือนตกรถ ซึ่งผู้ที่มีสไตล์การตัดสินใจแบบนี้เรียกว่า FOMO Investor (Fear of Missing Out) ซึ่งวันนี้ WikiBit จะขอนำเสนอวิธีกำจัดอาการกลัวตกรถนี้ เพราะเห็นคนตกรถตายในตลาดมาเยอะแล้ว!
1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน กระจายความเสี่ยง และซื้อขายในแบบของคุณ
ไม่ว่าคุณจะมั่นใจในสินทรัพย์ตัวไหน แต่ก็ไม่ควรลงทุนมากเกินกว่าที่คุณจะสามารถเสียได้ นักลงทุนที่เก่งกาจส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะถือครองสินทรัพย์หลายประเภทในระยะยาวเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุน
crypto ไม่ได้หลับใหล ตลาดคริปโตเคอเรนซีเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความผันผวน นักลงทุนคริปโตควรกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายล่วงหน้า และหากเป็นไปได้ ให้ระบุจุดเข้าและออก เรื่องไม่คาดฝัน เช่น การแฮ็ก หรือทวีตจากบุคคลที่มีชื่อเสียง อาจทำให้ราคาตกต่ำได้ทำให้ต้องวางแผนล่วงหน้าและวางแผนบรรเทาความสูญเสียของคุณราคาร่วงกะทันหัน
2. HODLing คิดยาว ถือยาว
คำกล่าวที่ว่า “ไม่ขาดทุนจนกว่าคุณจะขาย” ก็เป็นประโยคที่มีน้ำหนักอยู่นะ หากมูลค่าทรัพย์สินของคุณลดลงตั้งแต่คุณซื้อ เรียกว่าการสูญเสียที่ยังไม่เกิดขึ้น จะขาดทุนอย่างเป็นทางการก็ต่อเมื่อขายได้น้อยกว่าราคาซื้อของคุณ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Bitcoin มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว แม้ว่าราคาจะลดลงเนื่องจากการปรับฐานของตลาดชั่วคราว ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าราคามีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในที่สุดเนื่องจากแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ การถือครองมาเป็นเวลานานนั้นเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โดย Bitcoin ซึ่งอาจเป็นสินทรัพย์หลักที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา
ถ้าอยากรู้จักเหรียญคริปโตแต่ละเหรียญในตลาดให้มากขึ้น กดดาวน์โหลดแอป WikiBit แล้วไปค้นชื่อเหรียญเลยตอนนี้ โหลดฟรี ข้อมูลเพียบ!
3. หาโอกาสเสมอ
แม้ว่าตลาดคริปโตจะร่วงลง แต่ก็ยังมีโอกาสหากคุณรู้ว่าควรมองหาที่ไหน ในที่ที่คนอื่นเห็นฤดูหนาวคริปโตที่มืดมิดและหนาวเย็น นักลงทุนที่มีกึ๋นจะเห็นโอกาสใหม่ในการรับสินทรัพย์ที่พวกเขาชื่นชอบในราคาถูกและทำกำไร
แม้จะอยู่ในช่วงขาลง แต่ก็ยังมียอดเขาและหุบเขาเล็ก ๆ ในขณะที่ตลาดผันผวน เทรดเดอร์ที่มีความรู้ด้านทักษะการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะสามารถได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ โดยใช้ความรู้นั้นเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวในระยะสั้น ที่จะพาพวกเขาไปซื้อจุดต่ำสุดในระยะสั้นและขายจุดสูงสุด
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
XM
GTCFX
FBS
Pepperstone
FXCM
Markets.com
XM
GTCFX
FBS
Pepperstone
FXCM
Markets.com
XM
GTCFX
FBS
Pepperstone
FXCM
Markets.com
XM
GTCFX
FBS
Pepperstone
FXCM
Markets.com