简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เทรดเดอร์ไทยขอแชร์ประสบการณ์ขาดทุนจาก Crypto หนักมาก มูลค่าเกือบ 5 ล้านบาทในเวลาเกือบ 1 ปี
เทรดเดอร์ไทยขอแชร์ประสบการณ์ขาดทุนจาก Crypto หนักมาก มูลค่าเกือบ 5 ล้านบาทในเวลาเกือบ 1 ปี
ผู้ใช้เฟสบุ๊คได้โพสต์ข้อความในการแชร์ประสบการณ์ขาดทุน Crypto หนักในกลุ่ม Bitcoin ที่มีเนื้อหาว่า เห็นคนประสบความสำเร็จเยอะแล้ว
มาดูคนที่ล้มเหลวแบบผมบ้างครับ
ซึ่งเทรดเดอร์คนนี้ได้บอกด้วยว่าได้ซื้อเหรียญที่ทำให้ขาดทุนหนักมากไว้อีกด้วย
ซื้อ Doge ตอนราคาเหรียญละ 20.4 ในจำนวนเงินทั้งหมด 3.5 ล้านบาท ได้ขายขาดทุน ตอนราคา 7.2
ซื้อ Eth ตอนราคาเหรียญละ 129,000 ในจำนวนเงินทั้งหมด 700,000 ได้ขายขาดทุน ตอนราคา 96,000
ซื้อ Crv ตอนราคาเหรียญละ 108 ในจำนวนเงินทั้งหมด 900,000 ได้ขายขาดทุน ตอนราคา 80 กว่าบาท
ทุนทั้งหมด 5.1 ล้าน ตอนนี้ (7 มกราคม 2565) เหลือในเงินในพอร์ตราว 667,171 บาท ตอนนี้ขายทุกเหรียญที่ได้กล่าวไปข้างต้น และตอนนี้ถือเหรียญ Jfin , Mana , Gf และยังดอยอยู่เหมือนเดิม
อีกทั้งยังได้บอกอีกว่า ‘’ใน 10 เดือนเต็มๆ ที่อยู่ในตลาดคริปโตมา เจ็บครับ แต่ผมไม่ยอมแพ้ ‘’ บางครั้งเหมือนจะปล่อยวางได้ แต่ดูพอตทีไรก็เครียดตลอด เหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วครับตอนนี้ วันที่ผมประสบความสำเร็จ ผมจะกลับมาโพสต์ในกลุ่มนี้อีกครั้งครับ ขอบคุณทุกคนมากๆครับ ที่มาอ่านข้อความและให้กำลังใจผม หวังว่าโพสต์นี้จะเตือนสติพี่ๆน้องๆ ชาวคริปโตได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
สุดท้ายนี้อยากจะบอกทุกคนว่า..
อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ
ถึงแม้จะมีคนมากมายที่รวยจากมันก็ตาม
เรื่องนี้ได้บอกอะไรเรา เรื่องนี้ได้บอกว่าก่อนที่ลงทุนต้องศึกษาตลาดให้ดี และต้องศึกษาช้อมูลของเหรียญด้วย เพราะเจ้าของโพสต์ได้กล่าวว่าถ้ารอต่ออีกหน่อยน่าจะได้ทุนคืนมาแล้ว ทางเราขอแนะนำแหล่งหาข้อมูลเหรียญละกัน นั้นคือแอปพลิเคชัน WikiBit เป็นแอปที่ศึกษาข้อมลเหรียญคริปโตทั้งหมด และยังสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของ Defi,แอปเทรดคริปโต รวมถึงดูว่าเหรียญไหนเป็นเหรียญเถื่อนสร้างมาโกงเงินนักลงทุนด้วย ดาวน์โหลดเลย
และทาง WikiFX ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของโพสต์ด้วยนะ~
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
บทความนี้อธิบาย “ทฤษฎีแมลงสาบ” ในโลกคริปโต โดยเปรียบคริปโตเคอเรนซีกับแมลงสาบที่อยู่รอดได้แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ด้วยคุณสมบัติอย่างการกระจายศูนย์ ต้านการเซ็นเซอร์ และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว บทสรุปคือ คริปโตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่อยู่รอดและพัฒนาได้ก็เพียงพอ.
จากฮีโร่สู่ผู้ต้องหา! “โด ควอน” อดีตผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Terra ที่เคยสร้างเหรียญพันล้านอย่าง LUNA และ UST พังไม่เป็นท่าในปี 2022 จนกลายเป็นวิกฤตโลกคริปโต ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของ “ระบบล้ม” ระดับโลก แถมยังเคยเปิดเหรียญ THT ชนแบงก์ชาติไทยอีกด้วย บทเรียนราคาแพงของความมั่นใจที่เกินพอดี
KVB
AvaTrade
Trive
Exness
FOREX.com
IC Markets Global
KVB
AvaTrade
Trive
Exness
FOREX.com
IC Markets Global
KVB
AvaTrade
Trive
Exness
FOREX.com
IC Markets Global
KVB
AvaTrade
Trive
Exness
FOREX.com
IC Markets Global