简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin มีสัญญาณที่น่าสนใจเล็กน้อยเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยอยู่ในช่วงราคาที่มีการกำหนดเอาไว้ได้ดี
Bitcoin (BTC) เริ่มต้นสัปดาห์แรกในปี 2022 ด้วยราคาเดิมที่แถว ๆ ต่ำกว่า $50,000 หลังจากที่ปิดราคาในเดือนธันวาคมที่ $47,200 ซึ่งต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์กันเอาไว้มาก Bitcoin นักวิเคราะห์กล่าวว่า Wall Street จะกลับมาอีกครั้งหลังจากที่หุ้นปิดท้ายปีด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงมากขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยในไม่ช้าปี 2022
สภาพแวดล้อมทางตลาดนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง อย่างไรก็ดีตอนนี้ทุกอย่างยังคงทรง ๆ BTC ไม่ได้สร้างเซอร์ไพรส์ใด ๆ มาหลายสัปดาห์แล้ว หุ้น “ขึ้นอย่างเดียว” เป็นเวลา 6 เดือน S&P 500 ซึ่งเป็นของทางสหรัฐฯ ดัชนีแตะระดับ all time high ไม่ต่ำกว่า 70 ครั้งในปี 2021 มาโดยตลอดทั้งปีแม้ว่าจะดูไม่น่าลงทุนมากเท่าไหร่ Bitcoin ก็เป็นหนึ่งในนั้นโดยราคาที่อยู่ต่ำกว่า $50,000 โดยมีเหตุการณ์ที่เกิดเพียงอย่างเดียวนั่นคือการลงจากจุดสูงสุดและลงมาพักฐานในช่วงวันหยุด
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าธนาคารกลางก็จะต้องประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้และความสามารถของตลาดในการรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่สำคัญของคริปโต อย่างไรก็ตามในช่วงแรกของปีอาจเป็นความต่อเนื่องของ “ธุรกิจตามปกติ” ล่าสุดหุ้นนั้นก็ทำ all time high Charles Edwards ผู้ก่อตั้งบริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ Capriole ตั้งข้อสังเกตใน ทวีตของเขาในสัปดาห์นี้ “การเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความแข็งแกร่งเป็นเวลา 6 เดือน” 10 จาก 13 ครั้ง (77%) ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 มีผลตอบแทนจากตลาดหุ้นในเชิงบวกช่วง 6 เดือนแรกเฉลี่ย +5.1%
เรากำลังเข้าใกล้สู้ระบบนี้อีกครั้ง“ Charles กล่าวว่าแม้ว่าสถานการณ์ทั่วไปดังกล่าวจะ ”ดี“ ต่อ Bitcoin แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อาจหมายความว่าหุ้นจะดีดกลับไปในระยะยาวเนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ”หากปราศจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (ที่ยังไม่มีใครเห็น) ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยใด ๆ ของ FED จะมีระยะเวลาที่ยาวนาน“ เขากล่าวต่อ ”Bitcoin จะมีความผันผวนมากในช่วงเวลานี้ทั้งผลกระทบจากความผันผวนตลาดหุ้นและมาจากมาตรการปรับอัตราดอกเบี้ยของ FED ด้วย แนวรับสำคัญที่ $40,000 การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin มีสัญญาณที่น่าสนใจเล็กน้อยเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยอยู่ในช่วงราคาที่มีการกำหนดเอาไว้ได้ดี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
Trive
Neex
FBS
IC Markets Global
STARTRADER
AvaTrade
Trive
Neex
FBS
IC Markets Global
STARTRADER
AvaTrade
Trive
Neex
FBS
IC Markets Global
STARTRADER
AvaTrade
Trive
Neex
FBS
IC Markets Global
STARTRADER
AvaTrade