简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ความสนใจใน Ethereum ของนักลงทุน ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป เนื่องจากสินทรัพย์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของตลาดเริ่มได้รับการสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นจากระบบนิเวศ Defi
ความสนใจใน Ethereum ของนักลงทุน ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป เนื่องจากสินทรัพย์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของตลาดเริ่มได้รับการสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นจากระบบนิเวศ Defi และแอปพลิเคชั่นบนเครือข่าย ที่เป็นแรงผลักดันเบื้องหลังการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างก็เห็นพ้องตรงกันว่า Ethereum จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่เติบโตได้เร็วกว่า Bitcoin ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ผลสำรวจล่าสุดของ CoinShares ได้สะท้อนให้เห็นถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เชื่อว่า Ethereum ถูกกำหนดมาให้แซงหน้า Bitcoin และมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่า โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักลงทุนเทขายเหรียญ bitcoin ของพวกเขาเพื่อหันมาซื้อ ethereum แทน นอกจากนี้ผลสำรวจของ CoinShares ยังเผยให้เห็นว่า นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น นักลงทุนต้องการ Ethereum ผลสำรวจของ CoinShares เผยให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อโปรเจกต์คริปโตชั้นนำในตลาด โดย 42% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า
พวกเขาเห็นแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจสำหรับ Ethereum ในขณะที่อีก 18% กล่าวว่าพวกเขาเห็นแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจสำหรับ Bitcoin นักลงทุนเผยแรงจูงใจในการลงทุน Crypto เมื่อถูกถามถึงแรงจูงใจเกี่ยวกับการลงทุนใน Crypto คำตอบอันดับต้น ๆ ไม่ใช่มูลค่าของสินทรัพย์หรือแม้แต่ความสามารถในการกระจายความเสี่ยง แต่ 35% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาเลือกลงทุนในตลาดแห่งนี้ เพราะมันเป็นสินทรัพย์เก็งกำไรที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และมีเพียง 25% เท่านั้นที่กล่าวว่า พวกเขาเลือกใช้ crypto เพื่อกระจายพอร์ตการลงทุน ผู้ตอบแบบสอบถามยังกล่าวด้วยว่ากฎระเบียบ ข้อจำกัด และความผันผวนเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการลงทุนในตลาดคริปโต กฎระเบียบยังติดอันดับสูงสุด เมื่อพูดถึงเรื่องความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 58% กล่าวว่าการสั่งห้ามและกฎระเบียบของรัฐบาลยังคงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อตลาดคริปโตในปัจจุบัน
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ Exchange และ Token เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนของคุณนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้นตามที่ได้แจ้งข้อมูลกับทาง ก.ล.ต. เพื่อขอใบอนุญาต ถือว่าครบจบในแอปเดียว อย่ารอช้าโหลดเลย!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
FXCM
Markets.com
STARTRADER
XM
FXTM
KVB
FXCM
Markets.com
STARTRADER
XM
FXTM
KVB
FXCM
Markets.com
STARTRADER
XM
FXTM
KVB
FXCM
Markets.com
STARTRADER
XM
FXTM
KVB