简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทความนี้ทาง ‘Wikibit’ มีเรื่องราวดีๆ ของ ‘Kristoffer Koch’ ชายหนุ่มที่ถือครอง ‘Bitcoin’ ไว้ในมือตั้งแต่ปี 2009 สู่เส้นทางการเป็นเศรษฐีอย่างไม่รู้ตัว
นักเทรดคริปโตที่กำลังหลงใหลใน ‘Bitcoin’ ห้ามพลาด!! เพราะบทความนี้ทาง ‘Wikibit’ มีเรื่องราวดีๆ ของ ‘Kristoffer Koch’ ชายหนุ่มที่ถือครอง ‘Bitcoin’ ไว้ในมือตั้งแต่ปี 2009 สู่เส้นทางการเป็นเศรษฐีอย่างไม่รู้ตัวมาฝาก หากคุณพร้อมแล้วไปดูกันเลย!!
‘Kristoffer Koch’ ชายหนุ่มนักศึกษาคณะวิศวกรรมไฟฟ้า จากประเทศนอร์เวย์ ได้ตัดสินใจนำเงินจำนวน 150 โครนนอร์เวย์ ที่หามาได้ด้วยความยากลำบากไปซื้อ ‘Bitcoin’ ในจำนวน 5,000 BTC ด้วยราคาเพียงไม่ถึง 27 ดอลลาร์ ในปี 2009 (0.003 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC ตามราคาในขณะนั้น) หลังจากที่เขาค้นพบ และศึกษามัน ระหว่างนั่งเขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการเข้ารหัส โดยหวังว่ามันจะสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาในอนาคตได้
ซึ่งในขณะนั้นชื่อเสียงของ ‘Bitcoin’ ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักนักในแวดวงของนักลงทุน ส่งผลให้มูลค่าของมันยังอยู่ในระดับที่ต่ำ เมื่อเทียบกับราคาในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ ‘Koch’ ซื้อ ‘Bitcoin’ ไปแล้ว ก็ได้มีเพื่อนเข้ามาเตือนกับเขาว่า ‘Bitcoin’ นั้นเป็นเหรียญปลอมอย่างไปยุ่ง ซึ่งเขากลับเมินเฉยต่อคำพูดนั้น พร้อมทุ่มเทความตั้งใจให้กับการทำงาน จนลืมไปเลยว่าตนนั้นได้ถือ ‘Bitcoin’ จำนวนหนึ่งไว้อยู่ในกำมือ
ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2013 ‘Koch’ ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับราคาของ ‘Bitcoin’ ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งข่าวนี้สามารถเข้าไปกระตุ้นความทรงจำของเขาได้ว่า เขาเองก็ถือ ‘Bitcoin’ ไว้ในมือเหมือนกัน “ตอนนั้นฉันคิดกับตัวเองว่า ฉันมีอะไรแบบนี้อยู่ด้วยหรอ” ‘Kristoffer Koch’ กล่าว
เมื่อทราบอย่างนั้น ‘Koch’ จึงได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหารหัสผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลของเขา ซึ่งผลสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ พร้อมตัดสินใจขาย ‘Bitcoin’ จำนวน 1,000 BTC ทิ้งไปในราคา 196 ดอลลาร์ ต่อ 1 BTC เพื่อซื้ออพาร์ตเมนต์สุดทันสมัยในย่านโทเยน ของเมืองออสโล และรถยนต์สำหรับตัวเองจำนวน 1 คัน ส่งผลให้ตอนนี้เขาเหลือ ‘Bitcoin’ อยู่ในมือเพียง 4,000 BTC เท่านั้น
ทั้งนี้สิ่งที่ ‘Koch’ ได้รับจากการถือ ‘Bitcoin’ ไม่ได้ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จเหมือนนักลงทุนคนอื่นๆ แต่เป็นเพียงความโชคดีที่เขาได้จากการเข้าไปค้นคว้า พบเจอ ตัดสินใจซื้อ และหวังในตัวของ ‘Bitcoin’ เพียงเท่านั้น โดยถ้าหากในปัจจุบัน ‘Koch’ ยังคงถือ 4,000 BTC นี้ไว้ในกำมืออยู่จริงๆ นั่นก็หมายความว่า เขาได้กลายเป็น 1 ในมหาเศรษฐีที่ทำกำไรจาก ‘Bitcoin’ ได้อย่างมหาศาลเลยก็ว่าได้ เพราะมูลค่าของ ‘Bitcoin’ จากปี 2009 มาจนถึงปัจจุบันนี้ ได้พุ่งขึ้นมาสูงมาจากเพียง 0.003 ดอลลาร์ ต่อ 1 BTC เป็น 47,438 ดอลลาร์ ต่อ 1 BTC แทน โดยนับเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 189,752,400 ดอลลาร์ หรือประมาณราว 6,336,709,988 บาท นั่นเอง
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเรื่องราวสุดทึ่งของ ‘Kristoffer Koch’ ที่ได้เข้าไปซื้อ ‘Bitcoin’ ตั้งแต่ราคายังถูกๆ และถือมันไว้แบบยาวๆ จนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะถือไว้ด้วยความหลงลืมก็ตาม แต่มันก็สร้างกำไรให้กับเขาอย่างมหาศาลได้ ดังนั้นหากนักลงทุนท่านไหนที่เขามาอ่านบทความนี้แล้วมีความคิดที่อยากจะซื้อ ‘Bitcoin’ เก็บไว้ยาวๆ เหมือนกับ ‘Koch’ ก็อย่าลืมเข้ามาตรวจสอบ และศึกษาข้อมูลของมันให้ดีก่อนซื้อ ได้ที่แอป ‘Wikibit’ แถมตัวแอปยังได้มีการอัปเดตข่าวสาร สาระความรู้ และกลโกงต่างๆ ในวงการคริปโต ที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาด ไว้ให้คุณได้เสพ วิเคราะห์ และใช้มันเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจลงทุนได้อีกด้วย ตัวช่วยดีๆ แบบนี้ว่าที่มหาเศรษฐีคนต่อไปพลาดไม่ได้แล้ว โหลดนาว!!
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ เป็นแอปที่คุณสามารถใช้ตรวจสอบ ‘แอปเทรดคริปโต’ ‘เหรียญคริปโต’ และ ‘DeFi’ ได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่กดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้น ‘Whitepaper’ แถมตัวแอปยังมีการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร และรูปแบบกลโกงในวงการคริปโตไว้ให้คุณได้ศึกษาอีกด้วย ถือว่าครบจบในแอปเดียว โหลดเลย!!
ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการคริปโต พร้อมตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ได้ที่….
App : “WikiBit” (ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!)
Facebook : https://www.facebook.com/Wikibit.th/ (กด SEE FRIST เพื่อที่คุณจะไม่พลาดข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางเพจ)
ขอบคุณข้อมูลจาก : infomediang
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
เตือนภัยคริปโต! มิจฉาชีพยกระดับแผนหลอกลวง ส่ง จดหมายปลอมถึงบ้าน แอบอ้างชื่อ Ledger พร้อม QR Code หลอกให้กรอก Recovery Phrase หวังกวาดเหรียญเกลี้ยงกระเป๋า! ไม่ใช่แค่นั้น ยังมี แอป Ledger Live ปลอมสำหรับ macOS ฝังมัลแวร์ดูดข้อมูลเต็มระบบ ผู้ใช้คริปโตควรระวังทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างเคร่งครัด
บังฮาซัน แม่ค้าสุดไวรัลจากสตูล เผยเรื่องราวสุดช็อก ทำ Hardware Wallet ที่เก็บ Bitcoin หลักล้านตกน้ำ สูญคริปโตที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2020 เจ้าตัวย้ำ “ไม่แนะนำให้ใครตาม” พร้อมแชร์บทเรียนเรื่องการออม–การลงทุน พร้อมแนวคิด “ทำงานหนักแค่ไหน ถ้าไม่ออมก็ไม่มีวันสบาย” แม้คริปโตจะจมหาย แต่แรงบันดาลใจกลับลอยเด่นในใจแฟนคลับ
GTCFX
Saxo
FXCM
AvaTrade
Pepperstone
IC Markets Global
GTCFX
Saxo
FXCM
AvaTrade
Pepperstone
IC Markets Global
GTCFX
Saxo
FXCM
AvaTrade
Pepperstone
IC Markets Global
GTCFX
Saxo
FXCM
AvaTrade
Pepperstone
IC Markets Global