简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สรุป ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่ช่วงบ่ายตามเวลาไทย โดยได้รับแรงหนุนหลังจาก GfK
สรุป ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่ช่วงบ่ายตามเวลาไทย โดยได้รับแรงหนุนหลังจาก GfK เผยดัชนี คาดการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนี้สําหรับเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.3 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์ระบุว่าจะอยู่ที่ 3.9 ก่อนที่ราคาทองคําจะพุ่งขึ้นแรง หลังกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า
ดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสําคัญ เพิ่มขึ้นเพียง 0.5% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนพ.ค. ถือว่าต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% สถานการณ์ดังกล่าวช่วยคลายความวิตกของบรรดานักลงทุนที่กังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าคาด ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดัชนีดอลลาร์ ให้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ําสุดในระหว่างวัน จนส่งผลหนุนให้ราคาทองคําทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,790.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําเผชิญแรงขายทํากําไรในเวลาต่อมา
ขณะที่เมื่อเทียบรายปีพบว่า ดัชนี Core Pce พุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทําให้นักลงทุน ยังคงไม่แน่ใจว่าเฟดจะเร่งถอนมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือไม่ นั่นทําให้เกิดแรงซื้อกลับในดัชนีดอลลาร์จนเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาทองคํา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ไม่มีกําหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แต่แนะนําติดตามถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก
หากราคาทองคําทดสอบแนวต้านที่ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้อง ระมัดระวังแรงขายทํากําไรเนื่องจากครั้งที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคํามีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,764-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัว ลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
เน้นเก็งกําไรในกรอบ 1,761-1,795 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ โดยเปิดสถานะซื้อในโซน 1,764-1,761 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,761 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์)
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
กลางเดือนมิถุนายน 2568 ราคาทองคำในประเทศไทยพุ่งสูงจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเงินบาทที่อ่อนค่า ร้านค้าทองบางแห่งถึงขั้นหยุดซื้อ–ขายชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นักลงทุนควรติดตามข่าวสาร เข้าใจกลไกราคา และระมัดระวังการตัดสินใจท่ามกลางภาวะตลาดผันผวนสูง
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
แจ้งไลฟ์สดโดย คุณเพชร จากเพจ "เพชรพร้อมเทรด" ในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 – 15.00 น.
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เสื่อมสลายและสามารถช่วยรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจหรือการเงินที่ผันผวน มันมีคุณสมบัติเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" และให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว การลงทุนในทองคำสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการซื้อทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำ หรือผ่าน Gold ETFs และ Gold Futures นักลงทุนควรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน.
XM
Trive
EC Markets
Saxo
GTCFX
FOREX.com
XM
Trive
EC Markets
Saxo
GTCFX
FOREX.com
XM
Trive
EC Markets
Saxo
GTCFX
FOREX.com
XM
Trive
EC Markets
Saxo
GTCFX
FOREX.com